ทิปส์การเงิน
รายรับไม่พอกับรายจ่าย มองหาอาชีพเสริมอะไรดีที่เหมาะกับพนักงานประจำ ทำแล้วรายได้ดี
1. ขายสินค้าออนไลน์
สมัยนี้เป็นยุค Internet of Things = loT หรือ “อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง” เราใช้เวลาอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน ทำให้อาชีพขายสินค้าออนไลน์เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากสะดวกสบายต่อการซื้อขาย ในส่วนของผู้จำหน่ายเองก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนเปิดร้าน สามารถรับออเดอร์ และปิดการขายเมื่อไรก็ได้ ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มการเจริญเติบโตของตลาด E-Commerce ไทยในปี พ.ศ. 2559 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2558 จึงถือเป็นโอกาสที่ดีแก่พนักงานประจำที่ไม่มีเวลาหรือไม่มีทุนเปิดร้าน แต่มีความต้องการทำอาชีพเสริมในเวลาว่าง
2. อาชีพอิสระ (Freelance)
อาชีพอิสระ (Freelance) กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนทำงานประจำ เนื่องจากเป็นอาชีพที่สามารถทำได้ในเวลาว่าง และสร้างรายได้ได้โดยใช้ความชำนาญ อาชีพ Freelance ยังเป็นที่นิยมในต่างประเทศเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผลสำรวจที่มีชื่อว่า Freelancing in America 2015 จัดทำโดย Edelman Berland ซึ่งผลสำรวจนี้ได้แบ่งประเภทของอาชีพ Freelance ออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1. Independent Contractors: Freelance ที่รับจ้างทำงานเป็นโครงการ (Project) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40
2. Moonlighter’s: พนักงานประจำที่หันมาทำอาชีพเสริมด้วยการทำอาชีพอิสระ คำว่า Moonlighter’s สันนิษฐานได้ว่าอาจมาจากการนั่งทำงานหามรุ่งหามค่ำในตอนกลางคืน Freelance กลุ่มนี้คิดเป็นร้อยละ 27
3. Diversified Workers: ผู้ที่หารายได้จากหลายช่องทาง ยกตัวอย่างเช่น ช่วงเช้าทำอาชีพขายขนมหวาน ช่วงกลางวันรับจ้างเขียนบทความ และช่วงเย็นขับแท็กซี่ มีจำนวนร้อยละ 18
4. Temporary Workers: ผู้ที่ทำงาน Freelance เสมือนงานประจำ ซึ่งรับงานจากลูกค้าเพียงผู้เดียว และผูกพันไว้ด้วยระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 3-4 เดือน คิดเป็นร้อยละ 10
5. Freelance Business Owner: ผู้ที่ทำงาน Freelance แล้วไปว่าจ้าง Freelance อีกทอดหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญในด้านการตลาดได้รับว่าจ้างให้ทำแคมเปญการตลาดให้กับบริษัทหนึ่ง ได้ว่าจ้างผู้ที่ทำงาน Freelance ทางด้านการประชาสัมพันธ์อีกทอดหนึ่ง หรือเรียกว่า เป็นตัวแทน (Agency) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5
3. ขายเบเกอรี่
อาชีพขายเบเกอรี่ อาจต้องเรียนทำเบเกอรี่ เนื่องจากขนมบางประเภทต้องใช้เทคนิคพิเศษในการทำ ส่วนใครที่ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายดังกล่าว ก็สามารถค้นหาวิธีทำจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ เช่น สูตรการชั่งตวงปริมาณวัตถุดิบ หรือวิดีโอสาธิตวิธีทำ หากใครที่ไม่อยากปล่อยเวลาว่างโดยไร้ประโยชน์ ก็สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ โดยจำหน่ายผ่านโซเชียลมีเดีย (Social media) ซึ่งถือเป็นช่องทางการทำรายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่ง
จากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ค่าครองชีพสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ คนว่างงาน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้ที่ทำงานประจำต้องทบทวนว่าตนแบกรับภาระอะไรบ้าง และแนวทางที่จะช่วยลดภาระเหล่านั้นก็คือการทำอาชีพเสริม